วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แม่ของฉัน

                                                               
                                                                  แม่ของฉัน
             



          ฉันรักแม่ของฉันมาก เพราะแม่เป็นคนที่ให้กำเนิดเรามาก แม่เป็นคนที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เรายังไม่ลืมตามองโลก แม่เป็นคนที่ให้ทุกอย่างกับฉัน แม่เป็นคนที่คนที่ช่วยเหลือฉันได้ทุกอย่างทั้งเรื่องการบ้าน ความรัก แม้แต่เรื่องเงินๆทองๆแม่ก็ให้ฉันไม่ว่าฉันจะชอแม่มากเท่าไรแม่ก็ยังให้ฉันอยู่ดี แม่ทำให้ฉันมีความสุข แม่ทำให้ฉันสู้เมื่อฉันท้อ แม่เป็นหลายๆแย่างให้ชีวิตของฉันเลยย แต่ก็อาจมีบางครั้งที่ฉันทำให้แม่โกรธทำให้แม่เสียใจ ขอโทษทุกเรื่องที่ทำให้เสียใจ ฉันรู้สึกผิดมากและฉันก็จะไม่ทำให้แม่เสียใจอีก แต่ยังไงก็ตาม ฉันรักแม่ของฉันที่สุดด

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิธีเพิ่มความสูง

                                     16วิธีเพิ่มความสูง





1. ออกกำลังกายเพิ่มความสูง หรือการออกกำลังกายที่ทำให้มีการยืดของร่างกายวันละประมาณ 30-60 นาที ไม่ว่าจะเป็น กระโดดเชือก บาสเกตบอล ว่ายน้ำ วอลเลย์บอล หรือการออกกำลังกายในลักษณะห้อยโหนตัว (การโหนบาร์) เป็นต้น ก็ต่างมีส่วนในการเพิ่มความสูงทั้งนั้น ซึ่งค่อนข้างจะได้ผลดีมากเพราะการออกกำลังกายจะช่วยไปกระตุ้นการหลังของ โกรทฮอร์โมนให้เพิ่มมากขึ้น

2. การกระโดดเชือกให้ได้วันละ 30 นาที อาจจะแบ่งทำเป็นครั้งละ 5 นาทีแล้วพัก แต่ต้องทำให้ครบหรือมากกว่า 30 นาที (ไม่นับรวมเวลาพัก)

3. การกระโดดสูงบ่อยๆ โดดให้สูงจากพื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยอาจจะกระโดดอยู่กับที่ก็ได้ ซึ่งวิธีการโดดก็คือแบ่งเป็นเซทโดดครั้งละ 10 ที และทำมากกว่า 5 เซทขึ้นไป

4. การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และควรเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เพราะวิตามินหลายๆชนิดมีส่วนในการเจริญเติบซึ่งก็จะช่วยเพิ่มความสูงไปด้วย ซึ่งจะขาดไม่ได้เลยก็คือการเน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและมีแคลเซียมควบ คู่กันไปด้วย และขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

5. การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานให้ครบ 3 มื้อทุกๆวัน (เช้า กลางวัน เย็น)

6. การดื่มนมให้ได้วันละ 2 แก้ว หลังอาหาร(เช้าและก่อนนอน) เพราะนมอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและกระดูก

7. นอนหลับอย่างพอเพียงและเป็นเวลา ไม่ควรนอนดึกเพราะฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องความสูงอย่างโกรทฮอร์โมนจะหลั่งใน ช่วงเที่ยงคืนถึงตีห้า และโกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมามากถ้าหากนอนหลับอย่างสนิท ในขณะที่การหลับๆตื่นๆจะทำให้โกรทฮอร์โมนหลังออกมาน้อยมาก

8. งดการดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ด้วยถ้าเป็นไปได้

9. ยืดส่วนสูง ด้วยเครื่องยืดกระดูก อีกตัวช่วยหนึ่งที่คุณอาจจะต้องลงทุนนิดนึงแต่มันก็ค่อนข้างจะได้ผล ซึ่งการทำงานของเครื่องนี้ก็คือการเพิ่มความสูงด้วยการยืดกระดูก ลำตัว และข้อต่อ ซึ่งทำให้เกิดพื้นที่หรือช่องว่างมากขึ้น เหมือนกับการเล่นกีฬาอย่างบาสเกตบอล วอลเลย์บอล

10. การฉีดยาเพิ่มความสูง เป็น การฉีดโกรทฮอร์โมนเพิ่มความสูง หรือฮอร์โมนจีเอช (Growth hormone : GH) อันนี้ต้องระวังกันสักนิด เพราะพ่อแม่บางคนเข้าใจผิด ทั้งๆที่ลูกก็มีส่วนสูงเป็นปกติตามเกณฑ์ดีทุกอย่าง แต่อยากเพิ่มส่วนสูงให้ลูกอีกเพราะอยากให้ลูกเป็นนายแบบ นางแบบ หรือดารา ต้องหยุดความคิดไว้ก่อน เพราะถ้าหากลูกของคุณไม่ได้ขาดฮอร์โมนชนิดนี้ แล้วการที่ฉีดเพิ่มเข้าไปจะกลับกลายเป็นผลเสียซะมากกว่า อย่างเช่น ทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูง การฉีดไปนานๆ อาจทำให้เด็กป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคกระดูก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ เป็นต้น

11. การรับประทานผลิตภัณฑ์โกรทฮอร์โมนเสริมอาหาร อันนี้ไม่แน่ใจว่าจะเห็นผลมากน้อยเพียงใด แต่ไม่แนะนำเนื่องจากฮอร์โมนทุกชนิดอาจถูกย่อยสลายในกระเพาะ

12. โคลอสตรุ้มเพิ่มความสูง (Colostrum) หรือ น้ำนมเหลืองจากแม่วัว ที่หลังออกมาในช่วงวันแรกหลังการคลอด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความสูงได้โดยไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด ซึ่งประกอบไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและความสูง โดย อย่าง ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม วิตามินดี ในปริมาณที่เหมาะสม

13. การผ่าตัดเพื่อเพิ่มความสูง เป็นการผ่าตัดยืดกระดูก ที่บริเวณขา หน้าแข้ง แล้ววางยาสลบและใส่เครื่องยืดกระดูก แล้วยิงลวดตัดผ่านเข้าชั้นกระดูก เพื่อแยกกระดูกออกจากกัน และยึดลวดด้านบนและล่างเพื่อยึดเครื่องมือที่ใช้ยืดกระดูกที่ตัดออกจากกัน วันละ 1 มิลลิเมตร ซึ่งตามทฤษฎีแล้วสามารถเพิ่มความสูงได้มากถึง 5 ซม. แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือมีความเสี่ยงหลายประการ เช่น กระดูกที่ได้จากการเชื่อมต่ออาจจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ใช้ระยะเวลาในการรักษานานเป็นปี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการผ่าตัด ภาวะที่กระดูกไม่ติดกัน กระดูกเบี้ยว ไม่ตรงเหมือนเดิม เสี่ยงเป็นอัมพาต และภาวะติดเชื่อซึ่งจะรักษายากมาก ถ้าติดเชื้อรุนแรงอาจจะต้องตัดขาได้เลย แถมมีค่าใช้จ่ายในการ รักษาก็เป็นล้าน วิธีนี้จึงไม่ขอแนะนำ

14. เทคนิคเพิ่มส่วนสูง แบบเห็นผลทันที (หลอกๆ นะ) ถ้าเป็นผู้หญิงก็ คงจะใส่ส้นสูงกันซะส่วนมาก แล้วถ้าเป็นผู้ชายละจะทำยังไง นั้นก็คือ แผ่นรองส้นเพิ่มความสูง ที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ผสมกับโฟม มีความยืดหยุ่น สามารถสลับไปใส่กับรองเท้าคู่อื่นๆก็ได้ และสามารถถอดออกมาซักได้ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความสูงได้ตั้งแต่ 3.5 10 ซม.เลยทีเดียว

15. วิธีการเพิ่มความสูงสำหรับทุกวัย (เลย แล้ววัยก็ทำได้) โดยจะช่วยเพิ่มความสูงได้ประมาณ 1 ซม. โดยต้องทำวันละ 1 นาที ซึ่งเป็นเทคนิคจากแพทย์โรคกระดูกญี่ปุ่น โดยวิธีการง่ายๆก็คือ ให้นั่งคุกเข่า แล้วโน้มตัวไปด้านหลังจนนอนราบ ส่วนแขนก็ยืดขึ้นด้านบนราบกับพื้น และค้างไว้ทานี้ประมาณ 1 นาที ซึ่งจะช่วยให้กระดูกที่งอหรือคดตามกาลเวลาให้กลับมาอยู่ในแนวตรงเหมือนเดิม ผลที่ได้ก็คือจะได้ความสูงตามความจริงของเรากลับมานั่นเอง

16. วิธีเพิ่มความสูงด้วยตัวเอง ข้อสุดท้ายสำคัญมากๆ คือ ความสม่ำเสมอ และ ?ความสม่ำเสมอ? ถ้าขาดข้อนี้ไปก็คงไม่ได้ผล

ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี

ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี 






ประโยชน์ของเทคโนโลยีทั่วไป
- ลดแรงงานคนในการทำงานต่าง ๆ เช่น ควบคุมการผลิต และช่วยในการคำนวน
- เพิ่มความสะดวกสะบายตั้งแต่ส่วนบุคคล จนถึงการคมนาคมและสื่อสารทั่วโลก
- เป็นแหล่งความบันเทิง
- ได้ผลผลิตที่มีมาตรฐาน เหมือนกันหมดทุดชิ้น ซึ่งอิเฎลเห็นว่าเป็นการลดคุณค่าของชิ้นงาน เพราะ Handmade คืองานชิ้นเดียวในโลก
- ลดต้นทุนการผลิต
- ทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม และ เกิดการกระจายโอกาศ
- ทำให้เกิดสื่อการเรียนการสอนต่างๆมากขึ้น
- ทำให้เกิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น
- ทำให้เกิดระบบการป้องกันประเทศที่มีประสิทธิภามมากยิ่งขึ้น
- ในกรณีของอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเลือกการผ่อนคลายได้ตามอิสระ
โทษของเทคโนโลยีทั่วไป
- สิ้นเปลืองทรัพยากร เช่น น้ำมัน แก็ส และถ่านหิน จนกระทั้งน้ำ
- เปลี่ยนสังคมชาวบ้าน ให้กลายเป็นวัตถุนิยม (อิเฎลไม่ชอบมาก ๆ)
- ทำให้มนุษย์ขาดการออกกำลังกาย
- ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน เพราะใช้แรงงานเครื่องจักรแทนแรงงานคน
- ทำให้เสียเวลา ทั้งจากรายการไร้สาระในโทรทัศน์ จนกระทั่งนัก chat
- หากใช้เว็ปไซด์จำพวก Social Network จะทำให้ผู้ใช้มีโลกเป็นของตนเอง ขาดการติดต่อกับผู้อื่น โดยเฉพาะที่เห็นชัดเจนเกิดช่องว่างระหว่างผู้สูงอายุกับเด็ก

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

10อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย


                               10อันดับโรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทย
ถ้าพูดถึงเรื่องของการศึกษาสิ่งแรกที่เราต้องคิดถึงก็คือ "โรงเรียน" ใช่มั้ยคะ ที่ที่จะให้ความรู้ การศึกษา อบรบสั่งสอนลูกๆหลานๆของคุณเป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นโรงเรียนมัธยมด้วยแล้ว ยิ่งเป็นที่ชี้เป้นชี้ตายอนาคตของพวกเขาเลยล่ะค่ะ วันนี้ทางทีมงาน Toptenthailand จึงได้นำ 10 อันดับโรงเรียนยอดเยี่ยมของไทย ที่เรานำผลการสอบ Admission โควตารับตรง โอลิมปิกวิชาการ คะแนนการสอบ O-net แพทย์ กสพท. ทุนรัฐบาล ทุนก.พ. ทุน พสวท. และ รางวัลชนะเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นองค์ประกอบหลักในการจัดอันดับในครั้งนี้
อันดับ 10 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2452 หรือตั้งแต่ 105 ปีที่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุด และยังเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดยะลาอีกด้วย โดยเริ่มแรกเปิดสอนแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เท่านั้น ต่อมาได้ขยายโรงเรียนมาเรื่อยๆ เพราะทั้งเด็กเองก็เยอะขึ้น ทำให้ปัจจุบันเปิดรับนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เท่านั้น นอกจากนี้ยังเคยได้รางวัลพระราชทานโรงเรียนดีเด่น ประเภทมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ กรมสามัญศึกษาประจำปี 2522, 2523, 2525, 2529, 2535 และ 2539

ขอบคุณรูปจาก http://article.wn.com/view/WNAT98ec646c6594c0236ae7c4454b0ae723/
อันดับ 9 โรงเรียนเทพศิรินทร์
โรงเรียนชายล้วนที่มีประวัติมายาวนาน ที่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2428 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ปัจจุบันนี้โรงเรียนเทพศิรินทร์เป็นโรงเรียนรัฐบาลที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เป็นโรงเรียนชายล้วนที่เก่าแก่อันดับ 5 ของประเทศ ที่สำคัญยังเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเข้ารับการศึกษา คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 นั่นเอง

ขอบคุณรูปจาก http://www.debsirin.ac.th/about-us/honor8.php
อันดับ 8 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
โรงเรียนนี้ได้ก่อตั้งในปี 2496 ตามดำริของ ฯพณฯ ศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในขณะนั้น และกำหนดตั้งเป็นหน่วยสาธิตในแผนกฝึกหัดครูมัธยมของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สังกัดกองเตรียมอุดมศึกษา กรมวิสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งนับเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่เรียกชื่อว่า โรงเรียนสาธิต เคยได้รับรางวัลพระราชทานการจัดการศึกษาดีจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 จำนวน 16 ครั้งด้วยกัน

ขอบคุณรูปจาก http://www.satitpatumwan.ac.th/?page_id=2157
อันดับ 7 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์)
เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายกและแม่ทัพใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในขณะนั้นได้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจึงอยากจะสร้างโรงเรียนขึ้นมา จนได้สร้างในสมัยเหลนของท่านในปี 2504 ที่ได้บริจาคที่ดินให้กระทรวงศึกษาธิการได้ไปสร้างโรงเรียนนี้ และในปี 2511 กรมสามัญศึกษาได้มอบหมายให้คุณหญิงบุญเลื่อน เครือตราชู ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในขณะนั้นเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โรงเรียนนี้มีเกียรติประวัติมากมายโดยเฉพาะรางวัลโรงเรียนดีเด่น กรมสามัญศึกษา พ.ศ. 2515, 2516, 2518 และ 2519

ขอบคุณรูปจาก http://bd111.blogspot.com/
อันดับ 6 โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จังหวัดลำปาง
เป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของจังหวัดลำปาง สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี 2444 หรือกว่า 113 ปีแล้ว ในระยะเวลาที่ผ่านมาโรงเรียนนี้ได้สร้างชื่อเสียงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ที่สำคัญได้รับการดัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการเป็นโรงเรียนดีเด่นได้รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา ถึง 3 ครั้งด้วยกัน และในปีที่ผ่านมายังได้รับรางวัล the International Sustainable World เหรียญทองแดง ในหัวข้อ The Magic of Leonardite: the Absorbent Agent to Clean Wastewater เป็นตัวแทนโครงงานประเทศไทยเข้าแข่งระดับโลกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ขอบคุณรูปจาก http://pirun.ku.ac.th/~b521040487/Untitled-4.html
อันดับ 5 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
โรงเรียนที่หลายๆคนคงจะคุ้นชื่อกันดี เริ่มจากในปี พ.ศ.2494 กระทรวงศึกษาธิการมีโครงการจะสร้างโรงเรียนฝึกหัดครูที่บริเวณระหว่างถนนศรีอยุธยากับซอยรางน้ำ แต่เนื่องจากสถานที่เรียนของนักเรียนมีไม่เพียงพอ กระทรวงศึกษาธิการ จึงโอนโรงเรียนที่กำลังสร้างนี้ให้เป็นโรงเรียนมัธยมของ กรมวิสามัญ จน 4 ปีต่อมาได้ย้ายนักเรียนมาที่โรงเรียนแห่งใหม่และตั้งชื่อว่า โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ที่นี่ยังเคยได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังมีนักเรียนอีกหลายคนได้ไปแข่งขันวัดความรู้กับหลายๆประเทศ และได้รางวัลกลับมาด้วย

ขอบคุณรูปจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=klongrongmoo&month=11-2010&date=14&group=13&gblog=22
อันดับ 4 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จังหวัดสงขลา
เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาโรงที่ 3 ของจังหวัดสงขลา ในระยะต้นเปิดรับเฉพาะนักเรียนชาย จึงเรียกกันติดปากว่า โรงเรียนมัธยมชาย หรือ มอชาย มีชื่อย่อที่ใช้เรียกกันทั่วไปว่า มชญ. ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงการรับนักเรียนจากชายล้วนเป็นสหศึกษา โดยยุบรวมกับโรงเรียนสตรีหาดใหญ่ "สมบูรณ์กุลกันยา" ในปี พ.ศ. 2509 โรงเรียนนี้สร้างเกียรติประวัติไว้เยอะมาก ทั้งเด็กไปสอบแข่งขัน สอบได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จึงไม่แปลกที่จะได้รางวัลนี้ไปครอง

ขอบคุณรูปจาก http://www.theactkk.net/home/homenew1/DetailsNews.asp?TID=3890
อันดับ 3 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
เป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย เปิดสอนเฉพาะนักเรียนชายในระดับชั้นมัธยมศึกษา ปัจจุบันมีอายุ 133 ปี ก่อตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ปัจจุบันมีถึง 11 สาขาด้วยกัน และยังคงรับแต่นักเรียนชายอยู่เช่นเดิม โดยมีศิษย์เก่าเกียรติยศ มากกว่า 20 ท่าน ที่สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนจนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณรูปจาก http://www.muaythaiseemuaytu.com/index.aspx?pid=30191d17-f4d4-480f-9940-674daff330ea&WTID=5c0d92ac-6826-442e-9ece-e246259bb7cc
อันดับ 2 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
คงไม่มีไม่รู้จักโรงเรียนนี้ ก็แหมกว่าจะสอบเข้าได้มันลำบากยากเย็นซะจริ๊ง แต่หลายคนคงไม่รู้ว่าที่นี่อยู่ในความดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเดิมใช้ชื่อว่า “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เพื่อเป็นการเตรียมนักเรียนแผนกต่างๆ ไว้สำหรับเข้าศึกษาในคณะต่างๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ เรื่องความเก่ง หรือความมีชื่อเสียงของศิษย์เก่ายิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะทั้งคะแนน ทั้งรางวัล ที่ได้ก็การันตีทุกอย่างได้แล้ว

ขอบคุณรูปจาก http://amonphunsawat.blogspot.com/2012/08/blog-post.html
อันดับ 1 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้อันดับ 1 ก็เพราะเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย ที่ตั้งขึ้นเพื่อสร้างนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และเป็นโรงเรียนที่มีเครือข่ายกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำในประเทศอื่น ๆ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์มีการใช้ระบบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนเอง โดยปรกติมีอัตราการรับเข้าประมาณ 1.5% (240 คนจากนักเรียนที่สมัครแต่ละปีประมาณ 20,000 คน) โดยนักเรียนทุกคนได้รับทุนการศึกษาเต็มตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ในโรงเรียน ทำให้นักเรียนของที่นี่เต็มไปด้วยคุณภาพล้วนๆ

การออกกำลังกาย



การออกกำลังกาย




การออกกำลังหมายถึงกิจกรรมที่ทีกระทำแล้วทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี มีความฟิตการออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อ หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง การออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกาย อาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป
เป็นที่น่าดีใจว่าการออกกำลังให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเครื่องมืออะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคอ้วน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น มีพลังที่จะทำงานและต่อสู้กับชีวิต นอกจากนั้นยังสามารถลดความเครียดได้ด้วย
โรคที่มากับคนที่ไม่ออกกำลังกาย

กลุ่ม
-โรคความดันโลหิตสูง
-โรคหัวใจขาดเลือด
-โรคอ้วน
-โรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง
-โรคเครียด
-โรคภูมิแพ้
-โรคปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
-โรคมะเร็ง
ขณะป่วยควรออกกำลังกายหรือไม่
ขณะเจ็บป่วยไม่ควรจะออกกำลังกายเพราะจะทำให้โรคเป็นมากขึ้น ควรจะพักจนอาการดีขึ้น หากพักเกินสองสัปดาห์เวลาเริ่มออกกำลังกายควรจะเริ่มเบาๆก่อน และหากท่านเป็นโรคเรื้อรังควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย
จริงหรือไม่ที่การออกกำลังกายโดยการเดินดีพอพอกับการวิ่ง
การเริ่มต้นออกกำลังควรใช้วิธีเดิน เนื่องจากจะไม่เหนื่อยมาก ปวดข้อไม่มาก และลดน้ำหนักได้ ส่วนการวิ่งจะเป็นการออกกำลังที่คุณเตรียมร่างกายไว้พร้อม เพราะการวิ่งจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ทำให้เหนื่อย มีการปวดข้อ ดังนั้นการออกกำลังโดยการเดินเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลัง คนอ้วน คนที่มีโรคประจำตัว แต่สำหรับการวิ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีโรค และต้องการความฟิต
คนท้องควรจะออกกำลังหรือไม่
คนท้องควรออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ออกกำลังกายแบบเบาๆโดยการเดิน ไม่ควรจะวิ่ง ไม่ควรยกของหนัก รายละเอียดอ่าน การออกกำลังในคนท้อง
จะรู้ได้อย่างไรว่าออกกำลังมากไป
ท่านสามารถสังเกตขณะออกกำลังกายว่ามากไปหรือไม่ โดยสังเกตอาการดังต่อไปนี้
หัวใจเต้นเร็วมากจนรู้สึกเหนื่อย
หายใจเหนื่อยจนพูดไม่เป็นประโยค
เหนื่อยจนเป็นลม
มีอาการปวดข้อหลังจากการออกกำลังกาย
หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดการออกกำลังกายสองวัน และให้ลดระดับการออกกำลังกาย

ประวัติTaylor Swift

                             

                                                                    Taylor Swift


เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟต์ (อังกฤษ: Taylor Alison Swift; เกิด 13 ธันวาคม ค.ศ. 1989) เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เติบโตที่ไวโอมิสซิง รัฐเพนซิลเวเนีย ต่อมาเธอได้ย้ายไปยังเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ขณะอายุ 14 ปี เพื่อเดินตามความฝันที่จะเป็นนักร้องแนวคันทรี เธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงบิกแมชีนเรเคิดส์ และกลายเป็นนักแต่งเพลงที่อายุน้อยที่สุดที่บริษัทโซนี/เอทีวีมิวสิกพับบลิชชิง (Sony/ATV Music Publishing) จ้าง อัลบั้มแรกของสวิฟต์มีชื่อเดียวกับตัวเอง อัลบั้มทำให้เธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องคันทรี เพลง "เอาร์ซอง" ซิงเกิลที่สาม ทำให้เธอเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่เขียนเพลงด้วยตนเองและกลายเป็นเพลงอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอตเพลงคันทรี เธอได้เข้าชิงรางวัลแกรมมีในปี ค.ศ. 2008 ในสาขา Best New Artist

อัลบั้มที่สอง เฟียร์เลส ออกจำหน่ายในปี ค.ศ. 2008 เนื่องจากประสบความสำเร็จแบบข้ามแนวเพลงสู่แนวป็อป (pop crossover) ของซิงเกิล "เลิฟสตอรี" และ "ยูบีลองวิตมี" ทำให้อัลบั้มเฟียร์เลสเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในสหรัฐในปี ค.ศ. 2009 อัลบั้มชนะรางวัลแกรมมี 4 รางวัล และสวิฟต์เป็นนักร้องที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล Album of the Year อัลบั้มที่สาม สปีกนาว (ค.ศ. 2010) ขายได้มากกว่า 1 ล้านหน่วยในสัปดาห์แรกหลังจากออกจำหน่ายที่อเมริกา ซิงเกิลที่สามของอัลบั้ม เพลง "มีน" ได้รับรางวัลแกรมมี 2 รางวัล ในปี ค.ศ. 2012 สวิฟต์ออกอัลบั้มที่สี่ เรด ขายได้ 1.2 ล้านหน่วยในสัปดาห์เปิดตัว สูงที่สุดในรอบทศวรรษ ทำให้สวิฟต์กลายเป็นนักร้องผู้หญิงคนเดียวที่ทำยอดขายในสัปดาห์แรกได้มากกว่า 2 ล้านหน่วย ซิงเกิล "วีอาร์เนเวอร์เอเวอร์เกตติงแบ็กทูเกเตอร์" และ "ไอนูว์ยูเวอร์ทรับเบิล" เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมทั่วโลก อัลบั้มชุดที่ห้า 1989 ออกจำหน่ายในปี 2014 และมียอดขายในสัปดาห์เปิดตัวมากถึง 1.287 ล้านหน่วย ทำให้เธอเป็นศิลปินคนแรก และ เพียงคนเดียวที่มียอดขายเปิดตัวอัลบั้มมากกว่า 1 ล้านหน่วย ในสัปดาห์แรก ถึง 3 อัลบั้ม โดยเพลง " Shake It Off (เชคอิทออฟ) " , " Blank Space (แบลงก์สเปซ) " และ " Bad Blood (แบดบลัด) "ได้ขึ้นอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100

สวิฟต์เป็นที่รู้จักว่าเพลงของเธอเป็นการเล่าเรื่องที่มาจากประสบการณ์ตรง ในฐานะนักแต่งเพลง เธอได้รับเกียรติจากสมาคมนักแต่งเพลงแนชวิลล์ (Nashville Songwriters Association) และหอเกียรติยศนักแต่งเพลง (Songwriters Hall of Fame) สวิฟต์ยังได้รับรางวัลแกรมมี 7 สาขา รางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอวอร์ด 12 สาขา รางวัลสมาคมเพลงคันทรี 11 สาขา และรางวัลอะคาเดมีออฟคันทรีมิวสิกอวอร์ด 7 สาขา จนถึงปัจจุบัน เธอขายอัลบั้มได้มากกว่า 45 ล้านหน่วย และซิงเกิลดิจิตอล 130 ล้านหน่วย นอกจากงานเกี่ยวกับดนตรี สวิฟต์ยังปรากฏในภาพยนตร์ วาเลนไทส์เดย์ (ค.ศ. 2010) , ภาพยนตร์แอนิเมชัน เดอะโลแร็กซ์ (ค.ศ. 2012) และ "เดอะ กิฟเวอร์ พลังพลิกโลก" (ค.ศ. 2014) เธอยังทำหน้าที่นักการกุศลโดยสนับสนุนการศึกษาศิลปะ การอ่านออกเขียนได้ของเด็ก ๆ การบรรเทาสาธารณภัย ความพยายามต่อต้านการเหยียดเพศ และการกุศลสำหรับผู้ป่วยเด็ก

ประวัติส่วนตัว

                                                                 

                                                                     ประวัติส่วนตัว



สวัสดีคร้าบบบบบ เค้าชื่อ หญิง พิยดา พิลาวรรณ อยู๋ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2/12 เลขที่22 อายุ13 โรงเรียนสตรชัยภูมิ ชอบสีเขียวมิ้น ชอบฟังเพลง ชอบร้องเพลง ชอบเต้น แต่ถ้าจะให้โชว์จริงๆก็ไม่กล้าหรอก เป็นคนขี้อายต่อหน้าคนเยอะๆ แต่เข้ากับคนง่าย คุยเก่ง พูดเก่ง ห้าวๆ บางคนคิดว่าเค้าเป็นทอมแต่ไม่ได้เป็นอ้ะฮือออ TT เหมือนขนาดนั้นเลยหรอออ ช่างมันเหอะะ ไม่สนใจแล้ววว แล้วไอดอลก็คือ พี่พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ก็มีหลายคนถามว่าทำไมถึงชอบเพราะภายนอกพี่พลอยจะดูแรงๆ แต่ถ้าได้รู้จักพี่พลอยจริงๆ จะรู้ว่าพี่พลอยเป็นคนน่ารักมาก เฟรนลี่มากก เข้าถึงกับแฟนคลับทุกคน แต่พี่พลอยจะน่ารักเฉพาะกับคนที่น่ารักด้วย ร้ายมาก็ร้ายกลับ เค้าชอบพี่พลอยมาจะปีหนึ่งแล้วว และจะชอบแบบนี้ตลอดไป ก็วันนี้เค้ามาบอกประวัติเค้าแค่นี้ก่อนน้าา ไว้ครั้งหน้าจะมาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังอีกน้าา ถ้าไม่ลืม เพราะเค้าเป็นคนขี้ลืมมม บายยยบ๊ายยยยยยย